เที่ยงวันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคมปี 2535 ผมนั่งเล่นอยู่กับลูกชายวัยอนุบาลสองคนที่บ้านย่านดอนเมือง ผู้บังคับบัญชาได้โทรศัพท์มาหาและบอกว่าให้เดินทางไปทำภารกิจด่วนและสำคัญยิ่งที่เมืองกาฐมาณฑุประเทศเนปาลโดยให้เตรียมตัวเพื่อไปค้างคืนที่นั่นประมาณ 3-4 วันและให้ออกจากบ้านไปขึ้นเครื่องเที่ยวบินพิเศษที่ท่าอากาศยานดอนเมืองในเวลาบ่ายสองโมงตรงวันนั้นเลย
ภารกิจพิเศษที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
ผมรีบแต่งตัวออกจากบ้านขับรถมาที่สนามบินทันที ในใจก็นึกถึงงานหรือภารกิจสำคัญที่รออยู่ที่เนปาล ซึ่งแน่นอนครับ มันคงไม่มีทางเป็นงานหรือภารกิจอื่นไปได้นอกจากกรณีการหายไปอย่างไร้ร่องรอยของเที่ยวบิน TG311/31JUL92 เส้น ทางบินจากกรุงเทพมหานครสู่ท่าอากาศยานตรีภูวันของกรุงกาฐมาณฑุเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคมหรือสองวันที่ผ่านมานั่นเอง
ถึงห้องทำงานที่ดอนเมือง นายโทรมาสั่งอีกครั้งบอกให้เตรียมถุงขยะขนาดใหญ่ที่ใช้ในครัวบนเครื่องบินจำนวน 200 ถุงจัดโหลดไปกับเครื่องด้วย ถึงตอนนี้แล้วก็คงไม่ต้องสงสัยอะไรอีกแล้วนะครับว่าความเข้าใจของผมคลาดเคลื่อนไปหรือไม่
ทางบริษัทฯจัดเครื่องบินแบบ AIRBUS A300-600 เป็นเที่ยวบินพิเศษนำทีมผู้ปฏิบัติการสนับสนุนและผู้บริหารพร้อมทั้งญาติของนักบินและพนักงานต้อนรับของ TG311 เที่ยวบินที่สูญหายไปจำนวนหนึ่งไปยังเมืองหลวงของเนปาลโดยผมเป็น Catering Co-ordinator ประจำเที่ยวบินพิเศษควบคุมดูแลการให้บริการด้านอาหารและเครื่องดื่มรวมทั้งการประสานงานจัดการเรื่องการ service ทั้งขาเข้าและขาออก (โดยที่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นวันและเวลาไหนรวดเร็วหรือเนิ่นนานเพียงใด) โดยเฉพาะ KTM หรือ กาฐมาณฑุเป็น Catering off-lined station ไม่เคยมีการนำลงนำขึ้นหรือซื้อขายอาหารและเครื่องดื่มกับบริษัทฯมาก่อนแต่อย่างใด
เราออกเดินทางจากดอนเมืองในขณะที่ข่าวจากทางเนปาลล่าสุดก็คือทางการสรุป ว่า TG311 ประสบอุบัติเหตุอย่างแน่นอนแต่ทีมค้นหาและกู้ภัยที่ใช้เวลาเกือบสองวันเต็มในการปฏิบัติการก็ยังไม่สามารถค้นหาเครื่องบินหรือซากเครื่องบินสำเร็จแต่ประการใด
เมื่อเที่ยวบินพิเศษเดินทางไปถึง ทางคณะผู้โดยสารก็เดินทางต่อไปยังศูนย์ปฏิบัติการชั่วคราวของบริษัทฯที่ตั้งอยู่ณโรงแรม Annapura ทันที ผมเองไม่สามารถร่วมไปกับคณะเขาได้เพราะงานเราอยู่บนเครื่องบินและที่ Nepal Airlines Catering Center ที่สนามบิน หลังจากใช้เวลาจัดการควบคุมดูแลในส่วน Post-arriving flight ประมาณสองชั่วโมงเรียบร้อยแล้วผมก็รีบเดินทางไปยังศูนย์ฯที่ผู้บริหารระดับสูงทุกท่านพร้อมหน้าพร้อมตากันอยู่ที่นั่น โดยขณะที่ผมไปถึง ทางทีมค้นหาและกู้ภัยของเนปาลกำลังแสดงภาพถ่ายที่ได้มาแบบสดๆร้อนๆของอดีตเครื่องบินแบบ A310-304 ทะเบียน HS-TID ที่ประสบอุบัติเหตุชนกับภูเขาสูงทางทิศเหนือของสนามบินตรีภูวันทีละภาพทีละภาพท่ามกลางความเงียบงันขนาดเข็มตกลงพื้นก็ยังได้ยินของทุกคนภายในห้อง บรรยากาศในขณะนั้นผมยอมรับว่าแม้ทุกวันนี้ผ่านมา 30 ปีแล้ว ผมเองก็ยังไม่สามารถบรรยายมันออกมาเป็นตัวอักษรได้จริงๆ
คณะของเราอยู่ในเมืองหลวงของเนปาลเป็นเวลาสามวัน ผมเสียดายมากเหมือน กันนะครับที่ต้องใช้เวลาเกือบทั้งหมดทำหน้าที่ในงานที่ต้องรับผิดชอบหลักของหน่วยงานอยู่ในครัวการบินเนปาลแอร์ไลนส์ทำให้ไม่สามารถไปช่วยหรือมีส่วนร่วมในการสนับสนุนภารกิจของบริษัทฯในวันหรือช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดนี้ได้
กลับไปกาฐมาณฑุอีกครั้ง
ผมกลับไปกาฐมาณฑุอีกครั้งในช่วงเดือนพฤษจิกายนปีเดียวกัน ภารกิจหลักก็เหมือนกับทริปที่แล้ว แต่ครั้งนี้บริษัทฯจัดเที่ยวบินพิเศษนำคณะญาติพี่น้องของผู้โดยสารและพนักงานฯประจำเที่ยวบิน TG311 ไปร่วมพิธีเปิดอนุสรณ์สถานที่ได้จัดสร้างขึ้นตรงบริเวณใกล้กับจุดเกิดเหตุเพื่อเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว อ่านเรื่องราวของอนุสรณ์สถานดังกล่าวได้ที่นี่
ในชีวิตการทำงานกับบริษัทฯ ผมมีโอกาสเดินทางทั้งไปปฎิบัติงานและไปส่วน ตัวหลายๆที่หลายๆแห่งและบางแห่งหลายๆครั้ง ส่วนใหญ่เกือบทุกครั้งผมก็ไปด้วยความสุขและสนุกกับงานนั้นๆเสมอถึงแม้มันอาจจะเป็นงานที่หนักและต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจมากมายอย่างไรก็ตาม แต่กาฐมาณฑุทั้งสองทริป (โดยเฉพาะเที่ยวแรก) เป็นการเดินทางพร้อมกับความรู้สึกที่แย่มากๆ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ตัวเองและผู้คนรอบข้างตั้งแต่ผู้บริหารฯ เพื่อนร่วมงาน ตลอดจนไปถึงทุกคนทุกหมู่ทุกเหล่าตกอยู่ในอารมณ์ร่วมของความหดหู่และเศร้าโศกเสียใจกันทั่วทั้งองค์กรครับ
To: Passengers and crew members of TG311/31JUL92”
“May all of you rest in everlasting peace”
_______________________________________
นอกจาก “เรื่องที่ไม่เคยเล่า” ผู้เขียนยังมีบทความในซีรีย์ “อร่อยโลก” ที่จะพาไปพบกับเรื่องราวเบื้องหลังการบริการบนเครื่องบิน โดยเฉพาะอาหารบนเครื่องบิน ที่กว่าจะให้บริการบนเที่ยวบินนั้นมีความซับซ้อนมากมาย ติดตามไปได้ที่นี่ >> อร่อยโลก