15 เมษายน 1952 หรือกว่า 70 ปีที่แล้ว เป็นวันที่เครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่น Boeing B-52 Stratofortress ขึ้นบินทดสอบเป็นเที่ยวบินแรก ก่อนที่จะกลายเป็นตำนานเครื่องบินที่ผ่านหลากสมรภูมิ และยังคงมีการใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน
B-52 ถูกพัฒนาภายใต้ความต้องการของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา โดยวัตถุประสงค์หลักคือเป็นเครื่องบินที่สามารถบรรทุกอาวุธได้เยอะและมีพิสัยการบินที่ไกล รวมถึงต้องสามารถบรรทุกอาวุธนิวเคลียร์ได้อีกด้วย โดย B-52 รุ่นแรกที่มีการผลิตออกมา สามารถบรรทุกอาวุธได้ 32 ตัน มีพิสัยการบินไกลกว่า 14,000 กิโลเมตร ติดตั้งเครื่องยนต์ Pratt & Whitney J57 ก่อนที่จะปรับปรุงเป็น Pratt & Whitney JT3D เครื่องยนต์รุ่นเดียวกับ Boeing 707 ในภายหลัง
เครื่องบินรุ่นนี้เข้าประจำการในช่วงความขัดแย้งระหว่าง 2 ขั้วอำนาจใหญ่ หรือที่เรารู้จักกันคือสงครามเย็น ทำให้ B-52 มีบทบาทหลักในหลายสมรภูมิภายใต้ Strategic Air Command (SAC) รวมถึงบทบาทหลักในสงครามเวียดนาม สงครามอ่าวเปอร์เซียทั้ง 2 ครั้ง รวมถึงการบุกอัฟกานิสถานและอิรักของสหรัฐอเมริกา
สำหรับรุ่นย่อยต่างๆที่มีการพัฒนาออกมาตลอด 70 ปีของเครื่องบินรุ่นนี้ มีการพัฒนาประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการปฏิบัติการบิน โดยมีรุ่นย่อยหลักๆคือ B-52A, B-52B, B-52C, B-52D, B-52F, B-52G, และรุ่นล่าสุดคือ B-52H ที่มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็น Pratt & Whitney JT3D และระบบอาวุธใหม่ๆ โดยส่งมอบรุ่นย่อยนี้ลำแรกในปี 1961
ตลอดสายการผลิต B-52 ระหว่างปี 1952-1962 มีการผลิตเครื่องบินรุ่นนี้ออกมาทั้งหมด 744 ลำ ส่งมอบเข้าประจำการกับกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ใช้งานหลักเท่านั้น โดยมีอีกหน่วยงานที่เคยมีประจำการคือ องค์การอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NASA) ที่เคยมีเป็นเครื่องบินทดสอบภายใต้ Dryden Flight Research Center หรือในปัจจุบันคือ Armstrong Flight Research Center
ปัจจุบันกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกายังคงใช้งาน B-52 อยู่ โดยทั้งหมดเป็นรุ่นย่อย B-52H ประจำการอยู่ที่ฐานทัพอากาศ Barksdale AFB รัฐลุยเซียนา และฐานทัพอากาศ Minot AFB รัฐนอร์ทดาโกตาเป็นหลัก รวมทั้งหมด 76 ลำ
สำหรับรายละเอียดและขีดความสามารถต่างๆของ B-52H ที่น่าสนใจมีดังนี้
เตรียมเปลี่ยนเครื่องยนต์ ใช้งานต่อไปอีกอย่างน้อย 30 ปี
Tags: เรื่องราวรุ่นเครื่องบิน Last modified: April 15, 2023