วันที่ 6 สิงหาคม 1945 เวลา 8 นาฬิกา 15 นาที เครื่องบินแบบ B-29 Superfortress ของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ชื่อว่า “Enola Gay” ได้สร้างประวัติศาสตร์เปลี่ยนโลกที่ไม่มีใครลืม นั่นคือทำการทิ้งระเบิดปรมาณูลูกแรกที่มีการใช้งานจริงในสงคราม ระเบิดลูกนั้นชื่อว่า “Little Boy” ระเบิดเมืองฮิโรชิมา มีผู้เสียชีวิตทันทีเกือบ 100,000 คนและหลังจากนั้นมีผู้ได้รับผลกระทบตามมาอีกมากมาย
สำหรับคนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 การได้ไปเยือนเมืองนี้และที่สำคัญคือ Hiroshima Memorial Park ถือเป็นช่วงเวลาหลากอารมณ์ ทั้งดีใจที่ได้มาสถานที่สำคัญมากในประวัติศาสตร์โลก หรือจะเสียใจกับผู้เสียชีวิตและหดหู่กับความโหดร้ายของสงคราม แต่ถึงยังไงก็ตาม แนะนำให้ลองไปเยือน รับประกันว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
รู้จักฮิโรชิมา อีกที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ควรไปสัมผัส
ฮิโรชิมาตั้งอยู่ทางตะวันตกของเกาะฮอนชู ห่างจากเมืองหลักที่คนไทยนิยมไปท่องเที่ยวกันอย่าง โตเกียว ประมาณ 800 กิโลเมตร และ โอซาก้า ประมาณ 350 กิโลเมตร การเดินทางที่สะดวกที่สุดคือรถไฟชินคันเซ็นจากโอซาก้านั่นเอง ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่งบนเส้นทาง Sanyo Shinkanzen
โดยผู้เขียนเดินทางด้วยชินคันเซ็นจากโอซาก้า ราคาบัตรโดยสารเที่ยวเดียวจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 เยน แต่ถ้าซื้อ JR Pass จะสามารถประหยัดค่าเดินทางได้เยอะพอสมควร โดย JR Pass ที่แนะนำก็คือ Kansai Hiroshima Area Pass ระยะเวลา 5 วัน ราคา 14,500 เยนเท่านั้น สามารถเดินทางได้ครอบคลุมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวรอบโอซาก้า (เกียวโต โกเบ นารา) ยาวไปจนถึงโอกายามาและฮิโรชิมา สามารถดูรายละเอียดได้ที่ West JR
สำหรับที่พัก ผู้เขียนพักที่ APA Hotel Hiroshima – Ekimae Ohashi ซึ่งสะดวกสบายเพราะสามารถเดินจากสถานีรถไฟฮิโรชิมาได้ สะดวกต่อการเดินทางเป็นอย่างมาก สามารถดูรายละเอียดและจองได้ ที่นี่
สำหรับเที่ยวบินตรงจากประเทศไทย ปัจจุบันยังไม่มีสายการบินทำการบินตรง ส่วนสายการบินจากประเทศไทยที่เคยทำการบินมาคือ สายการบินนกแอร์ และสายการบินบางกอกแอร์เวย์ โดยสนามบินฮิโรชิมาตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 50 กิโลเมตร
บทความนี้จะเน้นไปที่ Hiroshima Memorial Park ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจมากมายในฮิโรชิมา จะมีมาให้ติดตามกันอย่างแน่นอน
สวนสันติภาพฮิโรชิมา
สร้างขึ้นบริเวณใกล้กับจุดศูนย์กลางการระเบิดของระเบิดปรมาณูลูกแรกที่มีการใช้งานจริง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Motoyatsu กลางเมืองฮิโรชิมา ในบริเวณสวนประกอบไปด้วย พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพและอนุสรณ์สันติภาพที่รู้จักกันในชื่อ โดมปรมาณู หรือ Atomic Bomb Dome ที่เป็นเศษซากของอาคารแสดงสินค้าขนาดใหญ่ในอดีตที่รอดพ้นจากแรงระเบิดมหาศาล ทำให้มีการคงสภาพไว้จนถึงปัจจุบันเพื่อเป็นการเตือนใจถึงความร้ายแรงของระเบิดปรมาณูนั่นเอง ปัจจุบันอนุสรณ์สันติภาพแห่งนี้เป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO มีการขึ้นทะเบียนมาตั้งแต่ปี 1996
ซาดาโกะ ตำนานนกกระเรียนกระดาษ 1,000 ตัว
ซาดาโกะ ซาซาอิ เด็กหญิงชาวญี่ปุ่นที่ป่วยจากผลกระทบของกัมมันตรังสีต่อร่างกาย เธอป่วยเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาวหรือในช่วงนั้นเรียกกันว่า โรคระเบิดปรมาณู หลายคนที่รอดชีวิตต่อการระเบิดกลับต้องมาทรมานกับโรคร้ายภายหลัง ซาดาโกะทรมานกับโรคร้ายนานหลายปี จนได้รู้จักกับตำนานญี่ปุ่นที่บอกไว้ว่า ถ้าใครพับนกกระเรียนกระดาษครบ 1,000 ตัวจะสามารถอธิษฐานอะไรก็ได้ เธอจึงเริ่มพับด้วยความหวังจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้แบบปกติ เธอใช้เวลาในโรงพยาบาลกว่า 1 ปีในการพับนกกระเรียนกระดาษ สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถต่อสู้กับโรคร้ายสำเร็จ ซาดาโกะเสียชีวิตลงในเดือนตุลาคม ….10 ปีหลังการระเบิด
อนุสรณ์สันติภาพเยาวชน (Children’s Peace Memorial) สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงความกล้าหาญของซาดาโกะ รวมถึงให้ตระหนักถึงความโหดร้ายของสงครามที่ไม่เลือกว่าผู้ได้รับผลกระทบจะเป็นใคร อายุเท่าใด บริเวณด้านล่างของอนุสรณ์นี้เขียนไว้ว่า
“This is our cry, This is our prayer, Peace in the world”
“นี่คือเสียงร้องไห้ของพวกเรา นี่คือคำอธิษฐานของพวกเรา ขอให้สันติภาพจงเกิดแก่โลกนี้”
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ….อาคารอันไร้ซึ้งรอยยิ้ม
เดินผ่านสวนสันติภาพเข้ามาเรื่อยๆจะพบกับอาการพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมเรื่องราวของระเบิดปรมาณู รวมถึงความโหดร้ายของสงครามเอาไว้อย่างอัดแน่นทุกตารางเมตร ทั้งการจำลองเหตุการณ์วันนั้น รวมถึงสิ่งของที่หลงเหลือจากความรุนแรงของการระเบิด เรียกได้ว่าเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จะพาเราดำดิ่งไปสู่ประวัติศาสตร์ที่ยากจะลืมเลือนของมนุษยชาติได้ในแบบที่คาดไม่ถึง
หลายๆคนอาจจะกลัวว่ามาเที่ยวพิพิธภัณฑ์โดยที่ไม่ได้มีความรู้ในเรื่องนั้นๆจะทำให้อรรธรสในการเยี่ยมชมเสียไป แต่ต้องยอมรับในการนำเสนอที่หลากหลายของพิพิธภัณฑ์ในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงการไล่เรียงเหตุการณ์อย่างเป็นลำดับ ใช้สื่อนำเสนอที่เข้าใจง่าย ทำให้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย สามารถเข้าใจเหตุการณ์ได้เป็นอย่างดี ส่วนการตีความของแต่ละคนจะเป็นอย่างไรย่อมขึ้นอยู่กับมุมมองของคนนั้นๆนั่นเอง
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ ได้ทำการปรับปรุงอาคารครั้งใหญ่แล้วเสร็จเมื่อเดือนเมษายน 2019 ที่ผ่านมา โดยขณะที่ผู้เขียนไปเยี่ยมชมนั้น ตัวอาคารใหม่ยังอยู่ในระหว่างการปรับปรุง ทางพิพิธภัณฑ์จึงนำสิ่งของต่างๆมาจัดแสดงในอาคารชั่วคราว ซึ่งอาจจะมีรายละเอียดบางอย่างต่างจากปัจจุบัน
เจ้าเด็กน้อย Little Boy ชื่อเล็กแต่อานุภาพไม่เล็กตาม
Little Boy คือชื่อของระเบิดปรมาณูลูกแรกที่มีการใช้งานจริงในประวัติศาสตร์ มีขนาดยาวกว่า 3 เมตรและมีน้ำหนักถึง 4.4 ตัน ใช้ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชั่นในการระเบิด โดยบรรจุแร่ ยูเรเนียม-235 น้ำหนักแร่กว่า 50 กิโลกรัม (แต่มีจำนวนแร่ที่ทำปฏิกิริยาจริงๆน้อยกว่า 1 กิโลกรัม) Little Boy ระเบิดเหนือศูนย์กลางเมืองฮิโรชิมา 500 เมตร สร้างแรงระเบิดมหาศาลกว่า 15 กิโลตัน TNT รวมถึงคลื่นความร้อนที่คร่าชีวิตคนจำนวนมากแทบจะทันที
ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีการจัดแสดงแบบจำลองและรายละเอียดต่างๆของระเบิด Little Boy รวมถึงระเบิดอีกลูกที่ใช้ที่เมืองนางาซากิในอีก 3 วันถัดมา ระเบิดลูกนั้นมีชื่อว่า Fat Man
ชิมโอโคโนมิยากิแบบฉบับฮิโรชิมา
หลังจากเที่ยวพิพิธภัณฑ์เหน็ดเหนื่อยทั้งร่างกายและความรู้สึก ถึงเวลาเติมพลังด้วยของอร่อยของฮิโรชิมา
หลายๆคนอาจจะเคยได้ลิ้มลองโอโคโนมิยากิ หรือพิซซ่าญี่ปุ่นมาบ้างแล้ว ปัจจุบันก็เริ่มแพร่หลายในประเทศไทย แต่ที่คุ้นเคยกันน่าจะเป็นในรูปแบบคันไซ ที่นิยมกันในบริเวณโอซาก้ารวมถึงที่อื่นๆในโลก แต่ที่ฮิโรชิมาจะมีรูปแบบต่างออกไปเล็กน้อย ส่วนผสมจะมาเป็นชั้นๆแยกกัน ทั้งแป้ง กะหล่ำปลีและเนื้อสัตว์ สามารถหาทานได้ทั่วไปทั้งเมืองโดยเฉพาะบริเวณสถานีรถไฟ อร่อยและราคาไม่แพง นิยมทานพร้อมกับยากิโซบะ
หมดไปอีกหนึ่งวันในฮิโรชิมา อีกเมืองหนึ่งที่น่าสนใจและมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งที่ท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ทั้งสมัยเก่าและสมัยใหม่ แนววัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมทั้งธรรมชาติอันสวยงาม ถือเป็นอีกเมืองที่ควรจะเผื่อเวลาในทริปญี่ปุ่นครั้งถัดไปของคุณ ส่วนจะมีที่ใดน่าสนใจอีกนั้น ทีมงาน Wingtips จะนำมาเล่าอีกอย่างแน่นอน
สามารถติดตามเรื่องราวท่องเที่ยวอื่นๆได้ที่นี่
Tags: ท่องเที่ยว Last modified: August 6, 2023